การเสียดินแดนของไทย14ครั้ง


สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน

บทสรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน นับตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเมื่อ พ.ศ.2325 จวบจนปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ชาติไทย ต้องเสียดินแดนให้ต่างชาติ ถึง 14 ครั้ง 

สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
บทสรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน นับตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเมื่อ พ.ศ.2325 จวบจนปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ชาติไทย ต้องเสียดินแดนให้ต่างชาติ ถึง 14 ครั้ง มีดินแดนส่วนใดบ้างนั้นมาชมกันเลย 
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
-:-ครั้งที่ ๑ เสียเกาะหมาก (ปีนัง) ให้กับประเทศอังกฤษ เมื่อ ๑๑ สิงหาคม ๒๓๒๙ พื้นที่ ๓๗๕ ตร.กม. ในสมัย ร.๑ เกิด จาก พระยาไทรบุรี ให้อังกฤษเช่าเกาะหมาก เพื่อหวังจะขอให้อังกฤษคุ้มครองเกาะหมากจากกองทัพของกรมพระราชวังบวรสถาน มงคล ซึ่งยกทัพมาจัดระเบียบหัวเมืองปักษ์ใต้ ในที่สุดอังกฤษก็ยึดเอาไป
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 2
เสีย ทวาย ตะนาวศรี ให้กับพม่า เมื่อ 16 มกราคม พ.ศ.2336 พื้นที่ 55,000 ตร.กม. ในสมัย ร.1 แต่เดิมเป็นของไทยครั้งสมัยสุโขทัย มังสัจจา เจ้าเมืองทวายเป็นไส้ศึกให้พม่า รัชกาลที่ 1 ไม่สามารถตีคืนจากพม่าได้ ประกอบกับชาวเมืองทวายไม่พอใจกองทัพไทยที่เข้ายึดครอง จึงตกเป็นของพม่าไป
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 3
เสียบันทายมาศ (ฮาเตียน) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ.2353 ในสมัยรัชกาลที่ 2
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 4  เสียแสนหวี เมืองพง เชียงตุง ให้กับพม่าเมื่อ พ.ศ.2368 พื้นที่ 62,000 ตร.กม.ในสมัย รัชกาลที่ 3 แต่เดิมเราได้ดินแดนนี้มาในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยพระเจ้ากาวิละ ยกทัพไปตีมาขึ้นอยู่กับไทยได้ 20 ปี เนื่องจากเป็นดินแดนที่อยู่ไกล ประกอบกับเกิดกบฏเจ้าอนุเวียงจันทร์และเกิดกบฏทางหัวเมืองปักษ์ใต้ (กลันตัน ไทรบุรี) ไทยจึงห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่มีกำลังใจจะยึดครอง หลังจากนั้นพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เชียงตุงก็เป็นของอังกฤษโดยสิ้นเชิง
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 5
เสียรัฐเปรัค ให้กับอังกฤษเมื่อ พ.ศ.2369 ในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นการสูญเสีย ที่ทำร้ายจิตใจ คนไทยทั้งชาติ เพราะเป็นการสูญที่ห่างจากครั้งก่อนไม่ถึง 1 ปี
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 6
เสียสิบสองปันนา ให้กับจีนเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2393 พื้นที่ 90,000 ตร.กม. ในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นดินแดนในยูนานตอนใต้ของประเทศจีน เมืองเชียงรุ้งเป็นเมือง หลวงของไทยสมัยรัชกาลที่ 1 ต่อมาเกิดการแย่งชิงราชสมบัติกันเอง แสนหวีฟ้า มหาอุปราชหนีลงมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้เกณฑ์ทัพเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ไปตีเมืองเชียงตุง (ต้องตีเมืองเชียงตุงให้ได้ก่อนจึงจะได้เชียงรุ้ง) แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่พร้อมเพรียงกัน มาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ให้กรมหลวงลวษาธิราชสนิท (ต้นตระกูลสนิทวงศ์) ยกทัพไปตีเชียงตุงเป็นครั้งที่ 2 แต่ไม่สำเร็จจึงต้องเสียให้จีนไป
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 7
เสียเขมรและเกาะ 6 เกาะ ให้กับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2410 พื้นที่ 124,000 ตร.กม. ในสมัย ร.4 ฝรั่งเศสบังคับให้เขมรทำสัญญารับความคุ้มครอง จากฝรั่งเศส หลังจากนั้นได้ดำเนินการทางการฑูตกับไทย ขอให้มีการปักปันเขตแดน เขมรกับญวน แต่กลับตกลงกันไม่ได้
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 8
เสียสิบสองจุไทย (เมืองไล เมืองเชียงค้อ) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 22 ธันวาคม พ.ศ.2431 พื้นที่ 87,000 ตร.กม. ในสมัย รัชกาลที่ 5 พวกฮ่อ ก่อกบฏ ทางฝ่ายไทยจัดกำลังไปปราบ 2 กองทัพ แต่ปฏิบัติเป็นอิสระแก่กัน อีกทั้งแม่ทัพทั้งสองไม่ถูกกัน จึงเป็นโอกาสให้ฝรั่งเศสส่งทหารเข้าเมืองไล โดยอ้างว่า มาช่วยไทยปราบฮ่อ แต่หลังจากปราบได้แล้ว ก็ไม่ยอมยกทัพกลับ อีกทั้งไทยก็ไม่ได้จัดกำลังไว้ยึดครองอีกด้วย จนในที่สุด ไทยกับฝรั่งเศสได้ทำสัญญากันที่เมืองแถง (เบียนฟู) ยอมให้ฝรั่งเศสรักษา เมืองไลและเมืองเชียงค้อ
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 9
เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน (5 เมืองเงี้ยว และ 13 เมืองกะเหรี่ยง) ให้กับประเทศอังกฤษในสมัย รัชกาลที่ 5 เมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2435 เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ทางด้านรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจและทรัพยากร อันอุดม ด้วยดินแดนผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ยิ่ง
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 10
เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (อาณาจักรล้านช้าง หรือประเทศลาว) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ.2436 พื้นที่ 143,000 ตร.กม. ในสมัยรัชกาลที่ 5
พื้นที่นี้เป็นของไทยมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ต้องเสียให้กับฝรั่งเศสตามสัญญา ไทยกับฝรั่งเศส เท่านั้นยังไม่พอ ฝรั่งเศสเรียกเงินจากไทย 1 ล้านบาท เป็นค่าเสียหายที่ต้องรบกับไทย เสียค่าประกันว่าไทยต้องปฏิบัติตามสัญญาอีก 3 ล้านบาท และยังไม่พอ ฝรั่งเศสได้ส่งทหารมายึดเมืองจันทบุรีและตราด ไว้ถึง 15 ปี นับว่าเป็นความเจ็บปวดที่สุด ของไทยถึงขนาดที่เจ้านายฝ่ายในต้องขาย เครื่องแต่งกายเพื่อนำเงินมาถวาย ร.5 เป็นค่าปรับ ร.5 ต้องนำถุงแดง (เงินพระคลัง) ออกมาใช้
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 11
เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง (ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ดินแดนในทิศตะวันออกของน่านคือ จำปาสัก และไซยะบูลี) ให้กับฝรั่งเศสเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2446 พื้นที่ 25,500 ตร.กม. ในสมัย.ร.5 ไทยทำสัญญากับฝรั่งเศส เพื่อขอให้ฝรั่งเศสคืน จันทบุรีให้ไทย แต่ฝรั่งเศสถอนไปแต่จันทบุรีแล้วไปยึด เมืองตราดแทนอีก 5 ปี แล้วเมื่อฝรั่งเศสได้ หลวงพระบางแล้วยังลุกล้ำย้านนาดี, ด่านซ้าน จ.เลย และยังได้เอาศิลาจารึกที่ พระเจดีย์ศรีสองรักษ์ไปด้วย
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 12
เสียมลฑลบูรพา (พระตะบอง,เสียมราฐ,ศรีโสภณ) ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 พื้นที่ 51,000 ตร.กม. ในสมัย ร.5 ไทยได้ทำสัญญากับฝรังเศส เพื่อแลกกับ ตราด,เกาะกง,ด่านซ้าย ตลอดจนอำนาจศาลไทยที่จะบังคับต่อคนในบังคับ ของฝรั่งเศส ในประเทศไทย เพราะขณะนั้นมีคนจีนญวนไปพึ่งธงฝรั่งเศสกันมาก เพื่อสิทธิการค้าขาย ฝรั่งเศสก็เพียงแต่ถอนทหารออกจากตราดเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2450 กับด่านซ้าย คงเหลือแต่เกาะกงไม่คืนให้ไทย
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 13
เสียรัฐกลันตัน,ตรังกานู,ไทรบุรี, ปริส ให้กับอังกฤษเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ.2451 พื้นที่ 80,000 ตร.กม. ในสมัย ร.5 ไทยได้ทำสัญญากับอังกฤษ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ศาลไทยที่จะบังคับคดีความผิดของคนอังกฤษในไทย
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ครั้งที่ 14
เสียเขาพระวิหาร ให้กับเขมร (กัมพูชา) เมื่อ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505 พื้นที่ 2 ตร.กม. ใน ร.9 ตามคำพิพากษาของศาลโลก ให้เขาพระวิหารตกเป็นของเขมร เนื่องมาจาก หลักฐานสำคัญของเขมร ในสมัยที่เป็นของฝรั่งเศส เมื่อรู้ว่ากรมพระยาดำรงราชานุภาพ จะเสด็จเขาพระวิหาร จึงขึ้นไปก่อนแล้วชักธงชาติฝรั่งเศสรับเสด็จ แล้วถ่ายรูปไว้เป็น หลักฐาน และนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงต่อศาลโลก ทำให้เขมรชนะด้วยเสียง 9 ต่อ 3
สรุปการเสียดินแดน 14 ครั้ง ของไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน
ขอบคุณภาพและเนืั้อหาจาก

Comments

Popular posts from this blog

สมัยอยุธยา

สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

สมัยรัตนโกสินทร์